สวัสดีครับทุกๆท่าน วันนี้กระผมจะพาทุกๆท่านไปรู้จักกับเนื้อวากิวในตำนานที่ว่ากันว่ากิโลละหลายพันบาท และมักจะมีอยู่ในร้าน Buffet ระดับ Premium ที่สนธิราคาก็มีตั้งแต่หัวละ 1500 ไปจนถึง 4000+โดยราคาก็ขึ้นอยู่กับเมนูเสริมต่างๆด้วยนั่นเอง
แต่ทุกๆร้านมักจะ Hilight ที่เมนูเนื้อวากิวระดับ A4, A5 ตอนแรกผมก็งง มันคืออะไรฟร่ะ ? ดียังไงทำไมถึงแพง ? ด้วยข้อสงสัยนี้ผมและทีมงานจึงกำเงินเฉียด 3000 บาทไปลองจัดเสียหน่อย มาดูกันครับว่ามันมีหน้าตายังไงและดีจริงหรือแค่อิงนิยาย… (แล้วเดี๋ยวตอนท้ายจะเฉลยว่าที่ไปลองนั้นไปกินร้านไหนมา)
เนื้อวากิวคืออะไร ?
ความหมายของ วากิว คือ เนื้อวัวที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น แต่ละร้านแสดงคำนี้เพื่อบ่งบอกว่าร้านนี้เมนูนี้ใช้เชื้อวัวจากญี่ปุ่นนะ เพราะจริงๆแล้วเนื้อดีๆก็มีอยู่มากมายเช่น เนื้อนิวซีแลนด์ เนื้อโคขุนของไทย เป็นต้น
วากิว ยังมีการแบ่งแยกประเภท หรือ ชื่อ ตามจังหวัดที่นำวัวไปเลี้ยง ด้วยการเลี้ยงที่ต่างกันจึงทำให้คุณภาพและรสชาติก็แตกต่างกันไปด้วยนั่นเอง ที่เราน่าจะคุ้นๆหูกันบ้าง ก็พวก เนื้อโกเบ เนื้อมัตซึซากะ อะไรทำนองนี้
วากิว A4, A5 คืออะไรทำไมถึงแพง ?
โดยปกติเนื้อจะถูกแบ่งเกรดระดับแรกก่อนคือ C-A คือระดับความหนาแน่นของเนื้อต่อน้ำหนักตัวของวัว พูดง่ายๆก็คือความแน่นของเนื้อนั่นเองซึ่ง A คือระดับที่ดีที่สุด
ส่วนตัวเลขที่ตามหลังเข้ามาคือระดับไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อนั่นเองไล่ตั้งแต่ 1–5 ระดับ 5 คือมีไขมันแทรกอยู่มากที่สุด ซึ่งจะมีราคาค่อนข้างแพงมาก
ฉะนั้นเข้าใจตรงกันนะครับว่าถ้าเนื้อระดับ A เหมือนกัน นั้นจะคุณภาพเท่ากัน เช่น A5 ไม่ได้ดีกว่า A4 เพียงแต่ A5 จะมีระดับไขมันมากกว่า ถ้าบางคนชอบมันๆก็จะชอบ A5 แต่ถ้าบางคนไม่ชอบมันมากอาจจะชอบ A3-A4 มากกว่าอะไรทำนองนี้ครับผม
เมื่อทุกคนเข้าใจตรงกันแล้วก็ไปดูของจริงกันเลยดีกว่าเนอะ :)
บรรยากาศร้าน และ บริการ
ก่อนจะไปถึงพระเอกของเรา มาดูบรรยากาศและรายละเอียดของร้านคร่าวๆ เพื่อเรียกน้ำย่อยกันก่อน ร้านจะเป็นเหมือนบ้านคน เปิดโล่ง บรรยากาศสบายๆ ไม่แออัด และไม่มีควันขโมง นั่งเรื่อยๆ ชิวๆ สบายๆ
โดยร้านจะเปิดรับโต๊ะ Premium แค่วันละ 2 โต๊ะเท่านั้นเพราะต้องจัดเตรียมอาหารล่วงหน้า ยังไงก็ต้องจับจองที่นั่งกันก่อนนะครับ ไม่ใช่ว่าจะไปก็ได้กินกันเลย และถ้าเรากินระดับ Premium คุณหวานเจ้าของร้านก็จะมาคอยบริการเราด้วยตัวเองเลย โดยจะแนะนำเนื้อให้ทีละชิ้น พร้อมย่างให้เราทาน และให้เราลองจำดูว่าชอบอันไหนอะไรยังไงจะได้สั่งถูก ถือว่าบริการดีเยี่ยมลดปัญหาการลืมว่า อันนี้คืออะไรวะอร่อยดีแต่สั่งไม่ถูกไปได้เลยครับ 5555+
พนักงานก็คอยบริการเติมน้ำและเปลี่ยนตระแกรงให้แทบจะทุก 5 นาทีเลยครับ จะเติมถ่านอะไรยังไงก็บอกได้ทันที
จริงๆที่ร้านมีเมนู Buffet หลายระดับ 460, 660, 1200, 2000, 2800 ซึ่งถ้าเรากินระดับสูงสุด ก็จะสั่งได้ทุกเมนูเลยครับ แต่คุณหวานจะคอยแนะนำเสมอว่าตัวไหนต่างกันยังไง คอยบอกให้กินแบบแพงดีกว่า แต่ถ้าอยากลอง หรืออยากรู้อะไรก็ถามได้ตลอดเลย
เครื่องเคียง ของทานเล่น และของหวาน
เริ่มที่อะไรเล็กๆ ไว้กินเล่นๆ ง่ายๆ กันก่อนครับ
เริ่มกันที่ น้ำจิ้ม และเครื่องปรุงก่อน ทางด้านซ้าย จะเป็นเครื่องเคียงได้แก่ พริกไทยดำ, เกลือหิมาลายันต์ และ วาซาบิ ส่วนน้ำจะเป็น โชยุ(มั้งลืม 555+) กับ ซีฟู๊ด ส่วนตัวไม่ว่าไปร้านไหน ผมไม่เคยจิ้มและปรุงใดๆ ทั้งสิ้นครับ ตรงนี้เลยต้องงดรีวิว แหะๆ
มาถึงเมนูข้าวที่อร่อยมากๆครับ ทั้งเนื้อและไข่ปลา คุณภาพดีมากๆ ถามว่าทำไมต้องสั่งข้าวด้วย ? เพราะต้องกินคู่กับเมนูถัดไปนั่นเอง…
มันปูนั่นเอง เอามากินกับข้าวก็สุด หรือจะกินเดี่ยวๆก็ดี โดยคุณหวานเจ้าของร้านก็จะแนะนำการย่างมันปูและคอยดูให้เราตลอดว่ากินได้หรือยัง กินช่วงไหนอร่อยสุด
ปิดท้ายด้วยของหวาน ที่จริงๆแล้วจะเสริฟท้ายสุด แต่ขอมารวมไว้ในหมวดนี้แล้วกันครับ จริงๆจะมีเมนูเฉาก๊วยด้วยแต่ลืมถ่ายกันไว้
รวมๆแล้วในหมวดหมู่นี้ค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยที่ทางร้านยกเลิกเมนูพวกซูชิออกไป คือจริงๆเราน่าจะคุ้มขึ้นเพราะไม่มีข้าวจากซูชิมาตัดกำลัง แต่ผมมองว่าในราคาระดับนี้น่าจะมีทางเลือกให้คนรักซูชิบ้างง หรืออย่างน้อยน่าจะมีไข่หวาน ปูอัด เสียหน่อย TT
หมู และ เบคอน
สำหรับเมนู หมู ส่วนใหญ่จะอยู่ใน Buffet ราคาต่ำกว่า 660 ครับ โดยตามภาพก็จะมี หมูสันนอก เบค่อน ไส้กรอกหนังกรอบ หมูติดมัน ซี่โครงหมู และ หมูคุโรบูตะ จริงๆมีเบค่อน Premium อีกอันแต่ลืมถ่ายรูปมาด้วย T3T
โดยรวมเมนู หมู นั้นผมค่อนข้างชอบนะ ส่วนตัวเป็นคนกินทั้งหมูและเนื้อตลอด ไม่ค่อยหนักไปทางใดทางหนึ่ง หลายคนอาจจะบอกไม่คุ้ม แต่คนมันชอบนี่หว่า 555 + ถ้าใครไม่กินเนื้อมาลอง Buffet 450, 660 เมนูหมูก็โอเคมากๆ ทั้งตัวเนื้อ และซอสที่ราด ฟินมากกกกก
อาหารทะเล
เริ่มกันที่เมนูยอดฮิตอย่าง แซลมอน กันก่อนเลย แต่ต้องขออภัยด้วยเพราะผมไม่กินปลาดิบ 555555+ ก็ให้ภาพมันเล่าเรื่องราวแทนแล้วกันครับ ออกตัวก่อนเลยว่าเมนูทะเลนั้นผมกินแต่กุ้งดังนั้นชมภาพชุดใหญ่โดยปราศจากการบรรยายเลยละกันเนอะ
เมนูหอย มันจะมี สครัมเบิล, หอย us, หอยฮอกไกโด ถ้าจำผิดต้องขออภัยด้วยครับ เพราะไม่ได้กินเอง TwT แต่เพื่อนผมสั่งไม่หยุดเลย คงการีนตีความอร่อยได้นะ
ตามมาด้วยปลาอะไรซักอย่าง จำไม่ได้ (อีกแล้ววว)
สุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุด ขาดไม่ได้เลยครับกับกุ้ง !! ผมจำไม่ได้ว่าเป็นกุ้งชนิดไหนนะครับ แต่ดูภายนอกตัวไม่ใหญ่ แต่จริงๆเปลือกบางมากๆ ทำให้พอแกะเปลือกออกมาแล้วตัวใหญ่เนื้อแน่นปั๊ก !! โคตรทีเด็ดครับบอกเลย ถ้าคุณสายกุ้ง คุ้มแน่นอนครับ น้ำจิ้มซีฟู๊ดที่ร้านก็รสชาติดีครับ อันนี้รับประกันได้ เพราะ เผาเอง จิ้มเอง กินเอง
เนื้อ !!!
มาถึงพระเอกของเรากันแล้วครับ นั่นคือเมนู เนื้อ !! นั่นเอง ขอออกตัวนิดนึงว่าจริงๆ ความตั้งใจอยากจะแนะนำเนื้อเป็นรายชนิดเลย แต่ว่าวันนั้นหิวมากๆ กินกันอย่างเดียวเลยๆอาจจะไม่ได้อธิบายได้ละเอียดมากนักครับ
หลายๆคนอาจจะเข้าใจ รายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อวากิว และ A4, A5 แล้ว ดังนั้นตัวเนื้อจะแบ่งตามส่วนต่างๆอีกที เช่น เนื้อระดับ A5 ส่วนสะโพก ส่วนสันนอก อะไรทำนองนี้เป็นต้น ซึ่งทางร้าน จะให้เราสั่งเป็นจำนวนชิ้นเลย ชิ้นไม่ใหญ่มาก และจะแร่ให้ใหม่ตามทีละ Order ของเราดังนั้นอาจจะเสริฟช้าหน่อย ดังนั้นสั่งทีละหลายๆชิ้นโลด
สองตัวนี้น่าจะเป็นเนื้อระดับ A4-A5 นะครับแต่เป็นส่วนไหนจำไม่ได้เหมือนกัน โดยทางร้านจะเรียกเมนูตามระดับราคาเพื่อให้เราเข้าใจง่ายๆ เพราะอาจจะมีเนื้อส่วนเดียวกันในหมวดราคา 2000, 2800 เช่น สะโพก2000, สะโพก2800 (แต่เขาจะเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งผมจำไม่ได้) เราก็สั่งตามชื่อพวกนั้นได้เลยว่าจะเอาแบบไหนครับ ความแตกต่างก็คือระดับ 2000 อาจจะเป็น A3-A4 สำหรับคนที่ไม่ชอบมันเยอะ และ 2800 สำหรับ A4-A5 สำหรับผู้รักไขมัน กร๊ากกก
คือรูปไม่ค่อยได้ถ่ายแบบแยกๆประเภทไว้ ขอให้ดู texture ของเนื้อต่างๆแบบรวมๆแล้วกันนะครับ แต่มี hilight นิดนึงตรงภาพกลางที่เขียนว่าเนื้อชาบูนั้น เป็นเนื้อปรุงที่ปกติใช้สำหรับต้มกิน แต่ทางร้านทำพิเศษไว้สำหรับย่างและจุ่มไข่ดิบกินครับ ซึ่งเมนูนี้ผมชอบมาก ไม่ว่าจะกินเพียวๆ หรือ จุ่มไข่กิน ก็โคตรเด็ดซะระตี่
มาดู texture ของเนื้อต่างๆกันต่อครับ
แค่เห็นก็น้ำลายสอแล้วใช่มั้ยล่ะ !! พี่หวานเจ้าของร้านจะแนะนำการย่างเนื้อให้เราตลอด การปรุงด้วยเกลือ บลาๆ ซึ่งผมก็ฟังบ้างไม่ได้ฟังบ้าง โซ้ยอย่างเดียว 5555+ ต่อไปมาดู texture ของเนื้อหลังย่างกันบ้างครับ (ถ่ายมารวมๆ ไม่ได้เรียงตามเนื้อด้านบนเด้ออออ)
จริงๆนอกจากวากิวเกรดเทพๆ ก็มีเนื้อในระดับล่างๆลงมา ตามเมนู Buffet ราคารองลงไปที่อร่อยๆ อีกเยอะครับ รวมไปถึงเนื้อประเภทอื่นๆด้วย
ให้ชมเล็กน้อยกับเนื้อแกะ อร่อยมากๆไม่คาวเลย มันคือดีงามพระราม 9 จริงๆ ก็จบกันไปแล้วครับสำหรับเมนูเนื้อ บอกก่อนว่าอาจจะถ่ายมาไม่ครบเพราะตอนนั้นหิวมากจริงๆ >,.< ซัดกันจนลืมว่าต้องถ่ายอะไรบ้าง 555555+
สรุป
ก่อนอื่นต้องขอเฉลยก่อนว่าร้านที่ไปนั้นคือร้าน The Garden Grill Yakiniku สาขาติวานนท์ 40 นั่นเองครับกินกันในหมวดราคา 2800/หัว นั่นเอง… ส่วนความดีงามของเนื้อวากิว A4, A5 สรุปได้ดังนี้
โดยปกติผมกินเนื้อทั่วๆทั้งแบบ Buffet หรือ A lar carte(จานเดี่ยว) ก็แยกรสชาติอะไรไม่ออกเท่าไหร่ รู้สึกว่ามันเหมือนๆกันหมด และส่วนตัวคิดว่าความแตกต่างมาจากซอสราดของแต่ละร้านเลย แต่สำหรับเนื้อ A4, A5 นั้นรสชาติของเนื้อแต่ละส่วนเราสัมผัสความแตกต่างได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องมีลิ้นเทพอะไรมากมาย
แต่ความอันตรายคือไขมันเยอะมากทำให้อาจจะเลี่ยนและอิ่มได้ไวจนกินไม่คุ้ม ถ้าคนทั่วไปผมว่าน่าจะชอบเนื้อประมาณ A4 เพราะมันไม่จัดจนเกินไป แต่ A5 นี่คือแบบไขมันเป็นหลักเนื้อเป็นรอง สำหรับผมชอบทั้งสองแบบเลยก็กินสลับกันได้เรื่อยๆ แต่ถ้าใครชอบแบบไหนก็แล้วแต่คนเลยครับ
ต้องยอมรับว่าปกติกิน Buffet ก็อัดๆแล้วอิ่มกันตั้งแต่ชั่วโมงแรก แต่มาร้านนี้ค่อยดื่มๆดำกินไปคุยไปจนหมดเวลา 2 ชั่วโมงเลย กินเต็มเวลาเป็นครั้งแรกเลยเนี่ย
ความคุ้มค่า และ คำแนะนำ
- ถ้าไม่ขัดสนเรื่องงบประมาณ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ ทานแล้วทานอีก เอาให้ตายกันไปข้างเลย
- ถ้าท่านมีงบประมาณจำกัด ถ้าไม่ได้ชอบกินเนื้ออาจจะผ่านไปเพราะราคาค่อนข้างเวอร์มาก แต่ถ้าท่านชอบกินเนื้อผมบอกเลยว่าต้องมาลองซักครั้งหนึ่งในชีวิตครับ
เพิ่มเติม
- ขอบคุณผู้สนับสนุนเฮียเท็น ที่ช่วยซัพพอร์ตค่าใช้จ่าย 1000บาท/คน
- ขอบคุณตากล้อง แนช โชเลียซ่า 007 สำหรับภาพบางส่วน
